กระดาษอาร์ตการ์ด (Art Cards) คืออะไร? เหมาะกับบรรจุภัณฑ์แบบไหน?
กระดาษอาร์ตการ์ด (Art Cards) คืออะไร? เหมาะกับบรรจุภัณฑ์แบบไหน?

กระดาษอาร์ตการ์ด Art Cards เป็นวัสดุที่นิยมอย่างมากกับการนำมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์และสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นวัสดุที่คุณภาพดีและราคาไม่แพงจนเกินไป

กระดาษอาร์ตการ์ด (Art Card Paper) ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายทางเป็นกระดาษเนื้อแน่น มีพื้นผิวที่สามารถทำให้เรียบเนียนทั้งสองด้าน หรือด้านเดียวก็ได้โดยถือเป็นกระดาษที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะในตัวเองและสีที่ได้ออกมานั้นจะมีความสด สีสวย กว่ากระดาษชนิดอื่น

ซึ่งความนิยมของกระดาษอาร์ตมันนั้นทำให้ผู้ประกอบการทั้งหลายหันมาให้ความสนใจและนำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับทำบรรจุภัณฑ์กันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนมากแล้วจะนิยมนำมาทำเป็นรูปแบบของกล่อง ซึ่งวันนี้เราจะไปดูกันว่า กระดาษอาร์ตการ์ดนั้นเหมาะกับบรรจุภัณฑ์ประเภทไหนบ้าง 


คุณสมบัติของกระดาษอาร์ตการ์ดมีอะไรบ้าง

กระดาษอาร์ตการ์ดเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติที่หลากหลายเหมาะสำหรับการนำมาใช้ทำเป็นบรรจุภัณฑ์และเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ด้วย โดยที่เราสามารถนำคุณสมบัติของกระดาษอาร์ตการ์ดไปเปรียบเทียบหรือดูความแตกต่างจากวัสดุชนิดอื่น เพื่อนำมาเลือกใช้ทำเป็นบรรจุภัณฑ์ได้นั่นเอง ซึ่งคุณสมบัติของกระดาษอาร์ตการ์ดมี ดังนี้

ความหนาของกระดาษ

ความหนาของกระดาษเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้คุณภาพของงานที่ผลิตออกมาดี โดยความหนาของกระดาษมีตั้งแต่ 200- 400 แกรม ซึ่งหากความหนาของกระดาษต่ำจาก 260 แกรมลงไป จะไม่นิยมนำมาผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์

แต่จะใช้ในงานพิมพ์อย่างอื่นแทน เช่น การ์ดเชิญ โปสการ์ด ปกหนังสือต่างๆ เพราะหากนำมาเป็นกล่องสินค้าจะไม่สามารถที่จะรับน้ำหนักของสินค้าได้และอาจะทำให้กล่องสินค้ามีการฉีกขาด บิดเบี้ยวไปจากเดิม และยังสื่อถึงความไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีคุณภาพด้วยนั่นเอง

น้ำหนักของกระดาษ

ในส่วนนี้เราจะรู้จักกันดีในศัพท์ทางเทคนิคที่เรียกว่า แกรม (Gram) เป็นหน่วยค่าวัดของน้ำหนักกระดาษ ยิ่งตัวเลขของแกรมเยอะ ความหนาของกระดาษก็จะยิ่งมากตามขึ้นไปเช่นเดียวกัน และความแข็งแรงของกระดาษก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ซึ่งหากว่ากระดาษมีความแข็งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะช่วยเพิ่มการรับน้ำหนักของสินค้าที่ใหญ่ขึ้นได้

ความเรียบของพื้นผิวกระดาษ

กระดาษที่นำมาผลิตเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ แน่นอนว่าคุณสมบัติของกระดาษจะต้องมีความเรียบเนียน ไม่เป็นผิวที่ขรุขระ และกระดาษอาร์ตการ์ดมีคุณสมบัตินี้เป็นพื้นฐาน คือ มีผิวกระดาษที่เรียบเนียน มันเงา ซึ่งนั่นจึงทำให้เป็นจุดขายของกระดาษอาร์ตการ์ดเลยก็ว่าได้และคุณสมบัติข้อนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่หยิบยกกระดาษอาร์ตการ์ดมาทำกล่องบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งงานที่ออกมาจากเครื่องพิมพ์ก็ยังมีความคมชัด มีคุณภาพมากด้วย

กระดาษอาร์ตการ์ด (Art Cards) คืออะไร? เหมาะกับบรรจุภัณฑ์แบบไหน?

กระดาษอาร์ตการ์ด เหมาะกับสินค้าบรรจุภัณฑ์ประเภทไหน

บรรจุภัณฑ์ส่วนมากที่นำมาบรรจุใส่สินค้าแต่ละประเภทนั้นจะมีการออกแบบดีไซน์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็จะต้องเลือกดูตามความเหมาะสมที่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยทั่วไปแล้วกระดาษอาร์ตการ์ดจะถูกนำไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดกล่องเป็นหลัก

เนื่องจากสามารถออกแบบให้กระดาษมีรูปทรงได้ตามที่ใจต้องการและยังสามารถเพิ่มลวดลายลงไปบนกล่องเพื่อให้สินค้าได้มีสีสัน และยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ดีอีกด้วย ส่วนมากแล้วกระดาษอาร์ตการ์ดจะถูกนำไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ประเภท กล่องแพคเกจจิ้ง ได้แก้

ซึ่งการทำจะนำมาใช้เป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ได้นั้น กระดาษอาร์ตการ์ดจะต้องมีความหนาตั้งแต่ 300 แกรมขึ้นไป เพื่อความแข็งแรงของกล่องในการปกป้องสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในและอาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยการเคลือบ PVC เพื่อเป็นการป้องกันไปอีกชั้น


ขนาดกระดาษอาร์ตการ์ดที่ได้รับความนิยม

กระดาษอาร์ตการ์ดถูกนำไปใช้งานหลากหลายชนิด และกระดาษอาร์ตการ์ดยังมีการแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือกระดาษอาร์ตการ์ดแบบ 1 หน้า, กระดาษอาร์ตการ์ดแบบ 2 หน้า แต่ละประเภทก็ใช้ขนาดของกระดาษ ใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแล้วจึงเกิดเป็นคำถามว่าแล้วขนาดไหนบ้างล่ะที่ผู้ผลิตมักจะใช้กันและเพราะอะไร ไปดูกันเลย

1.ขนาดกระดาษอาร์ตการ์ด 260 แกรม

ขนาดกระดาษที่มีขนาด 200-260 แกรม จะเป็นกระดาษที่อยู่ในประเภท กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า ที่มีลักษณะผิวเรียบ มันเงาเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน โดยส่วนมากแล้วกระดาษอาร์ตการ์ดที่มีขนาด 260 แกรม จะใช้กับงานพิมพ์ที่เกี่ยวกับ การ์ดเชิญ โปสเตอร์ โบรชัวร์ โปสการ์ด ปกหนังสือนิทาน ปกหนังสือทั่วไป เป็นต้น

2.ขนาดกระดาษอาร์ตการ์ด 350 แกรม

ขนาดกระดาษที่มีขนาด 350-400 แกรม จะเป็นกระดาษอาร์ตการ์ดประเภท 1 หน้า ลักษณะของผิวกระดาษประเภทนี้จะมีด้านหนึ่งเป็นผิวเรียบ มันเงา และอีกด้านจะมีความหยาบอยู่เล็กน้อย ทำให้คนส่วนใหญ่ชอบนำไปผลิตเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ เพราะขนาดของกระดาษอาร์ตการ์ดที่ 350 แกรม จะมีความหนา และแข็งแรง เมื่อนำมาผลิตเป็นกล่องเครื่องสำอาง กล่องสบู่ กล่องลิปสติก กล่องครีมต่างๆ ก็จะสามารถรับน้ำหนักของสินค้าได้

แต่ขนาดที่คนส่วนมากนิยมใช้มากที่สุด นั่นคงหนีไม่พ้นกระดาษอาร์ตการ์ดที่มีขนาด 350 แกรม เพราะมีความแข็งแรง ทนทานมากกว่ากระดาษอาร์ตการ์ดที่มีขนาด 200 แกรม อีกทั้งยังสามารถที่จะปกป้องสินค้าไม่ให้เกิดความเสียหายได้นั่นเอง


ข้อดีของการใช้กระดาษอาร์ตการ์ด

  • ฉีกขาดได้ยาก : เพราะกระดาษอาร์ตการ์ดมีความเหนียวแน่น สามารถที่จะทนทานต่อแสงแดด ความชื้นต่างๆ ได้
  • พิมพ์สีได้สดใส : กระดาษอาร์ตการ์ดเมื่อนำมาพิมพ์สี พิมพ์ข้อความ หรือพิมพ์โลโก้ของแบรนด์สินค้าลงไปบนกระดาษจะยิ่งทำให้กระดาษมีความสวยงาม และมีสีที่สด คมชัด และข้อดีเหล่านี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคเห็น และจดจำแบรนด์สินค้าเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
  • สามารถใช้กับเทคนิคได้หลากหลาย : เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษอาร์ตการ์ด และมีการใช้เทคนิคพิเศษ เช่น เทคนิคการปั๊มนูน ปั๊มจม การเคลือบเงา เคลือบด้านต่างๆ เข้ามาช่วยจะยิ่งช่วยเพิ่มให้กล่องบรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรง และมีคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของยอดขายให้กับสินค้าด้วย
  • รองรับน้ำหนักสินค้าได้ดี : ด้วยความที่กระดาษอาร์ตการ์ดมีความเหนียวแข็งแรง จึงทำให้ในการรับน้ำหนักของสินค้าได้เป็นอย่างดี ไม่มีการฉีกขาดของกระดาษ จึงเป็นที่นิยมของผู้ผลิตในการนำมาผลิตเป็นกล่องสินค้า เช่น กล่องสบู่ กล่องเครื่องสำอางนั่นเอง
  • ป้องกันการกระแทกได้ดี : หรือสามารถที่จะห่อหุ้ม ปกป้องสินค้าไม่ให้เกิดการแตกหักเสียหายของสินค้าที่อยู่ในกล่อง ระหว่างการขนส่ง เคลื่อนย้ายต่างๆ
  • ช่วยเพิ่มมูลค่า : เมื่อคุณสมบัติของกระดาษช่วยให้การออกแบบ การพิมพ์สี พิมพ์ลายกราฟฟิกต่างๆ ทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์สวยดูดีขึ้น และมีความน่าสนใจ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากรูปร่างหน้าตาของบรรจุภัณฑ์สวยดี สิ่งที่ตามมาคือ ยอดขายสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น เพราะผู้บริโภคในยุคปัจจุบันจะซื้อสินค้าสักอย่าง สิ่งแรกที่จะเห็นคือ หน้าตาของกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นอีกด้วย
  • ราคาไม่แพง : กระดาษอาร์ตการ์ดเป็นกระดาษที่มีราคาไม่แพงมาก และสามารถหาซื้อได้ง่ายทั่วไป ผู้ประกอบการจึงนิยมใช้ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนของวัสดุกระดาษไปในตัวด้วย อีกทั้งคุณภาพที่รับยังเกินราคาที่เสียไปอีกด้วย

สรุป

ด้วยคุณสมบัติหลายๆ ข้อ และข้อดีหลายๆ อย่างของกระดาษอาร์ตการ์ดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผิวกระดาษที่มีความเรียบ มันเงา ซึ่งช่วยในการพิมพ์สี พิมพ์โลโก้ พิมพ์ข้อความต่างๆ ให้มีความสวย คมชัด และกระดาษอาร์การ์ดก็มีความหนา สามารถที่จะกันความชื้น กันแสงแดดได้ อีกทั้งยังมีราคาที่ย่อมเยาว์

เมื่อเทียบกับกระดาษบางประเภทที่มีคุณสมบัติ และการออกแบบที่คล้ายกันกลับมีราคาที่แพงกว่า จึงทำให้ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตต่างๆ เล็งเห็นข้อดี และประโยชน์เหล่านี้ของกระดาษอาร์ตการ์ด จึงมีการนำมาผลิตเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เช่น กล่องลิปสติก กล่องสบู่ กล่องครีม กล่องขนม กล่องอาหาร เป็นต้น