ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ต

พิมพ์กล่องสวยด้วยการพิมพ์ออฟเซ็ต

การพิมพ์ออฟเซ็ต (Offset printing) เป็นเทคนิคการพิมพ์ชนิดหนึ่งซึ่งใช้ลูกกลิ้ง (นิยมเรียกว่า โม) เกลี้ยงทำด้วยยาง ถ่ายทอดหมึกจากลูกกลิ้งแม่แบบ ก่อนจะถ่ายทอดหมึกลงสู่กระดาษ ซึ่งต่างจากการพิมพ์ลูกกลิ้งเดี่ยว (rotary press printing) หรือการพิมพ์แบบประทับตัวอักษร (letterpress printing) ที่ใช้แม่แบบกดลงบนกระดาษโดยตรง การพิมพ์ลูกกลิ้งคู่พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2418 เพื่อใช้พิมพ์บนผิวดีบุกและต่อมาได้พัฒนาเป็นการพิมพ์บนกระดาษ การพิมพ์ลูกกลิ้งคู่มีลักษณะคล้ายกับการพิมพ์ด้วยหิน ซึ่งเป็นการเขียนแผ่นหินเรียบด้วยไข บริเวณที่เหลือจะถูกทาด้วยกรดให้หินพรุนและซับน้ำ เมื่อช่างพิมพ์ทาหมึกแล้ว หมึกจะติดบริเวณไข ส่วนบริเวณที่ไม่มีไขหมึกจะถูกชะออกได้ง่าย เมื่อชะหมึกแล้วจึงพิมพ์เช่นเดียวกับการพิมพ์แบบประทับอักษร

ระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ต (Offset Printing)

เริ่มจากระบบการพิมพ์ออฟเซ็ตที่มีคุณภาพสูง การพิมพ์ระบบนี้ถือเป็นมาตรฐานการพิมพ์ที่นิยมใช้กันทั่วไปในเรื่องของงานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพสูง ซึ่งจะเน้นความละเอียดของเม็ดสี สามารถใช้เม็ดสกรีนที่มีความละเอียดมากๆ การพิมพ์ออฟเซ็ตมาจากหลักการคิดเกี่ยวกับ “น้ำและน้ำมันไม่สามารถรวมตัวกันได้” ซึ่งบนแผ่นแม่พิมพ์จะมีทั้งสองส่วน คือบริเวณที่ไม่มีภาพก็จะเป็นที่รับน้ำและในส่วนที่มีภาพก็จะเป็นสารเคมีที่เป็นพวกเดียวกับหมึก พร้อมด้วยระบบทำความชื้นและระบบการจ่ายหมึกให้แก่แม่พิมพ์เมื่อมีการเคลื่อนไหว แม่พิมพ์จะหมุนไปรับน้ำ หรือ ความชื้นแล้วจึงไปรับหมึกเมื่อแม่พิมพ์รับหมึกในบริเวณภาพแล้ว จะหมุนลงไปถ่ายโอนไปให้โมผ้ายางแล้วจึงถ่ายลงวัสดุพิมพ์โดยมีโมกดพิมพ์เป็นตัวควบคุมน้ำหนักแรงกดทับ

หลักในการพิมพ์ของระบบออฟเซ็ต

ออฟเซ็ตเป็นระบบการพิมพ์พื้นฐานทั่วไปใน ระบบ 3 โม คือ

1.โมแม่พิมพ์

2.โมผ้ายาง

3.โมแรงกด

เครื่องพิมพ์มีหลายขนาด มีทั้งเครื่องพิมพ์ 1 – 5 สี หรือมากกว่านั้น สามารถพิมพ์ได้บนหลากหลายวัสดุไม่ว่าจะเป็นกระดาษ พลาสติก แผ่นโลหะ กระดาษ ไม้ ผ้า เหล็ก และพลาสติก เป็นต้น ในปัจจุบันจัดได้ว่าระบบการพิมพ์ออฟเซ็ต เป็นระบบงานพิมพ์ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดในโรงพิมพ์เพราะให้คุณภาพของงานพิมพ์ที่สูง และราคาไม่สูงมาก เหมาะสําหรับใช้พิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด โดยเฉพาะสิ่งพิมพ์ต้องการความรวดเร็วในการจัดพิมพ์ ต้องการความประณีต สวยงาม เป็นการพิมพ์หลายสี หรือภาพ4สีที่ต้องการความสวยงาม มีงานอาร์ตเวิร์กที่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อนมาก และมีงบประมาณในการจัดพิมพ์เพียงพอ ตัวอย่างงานพิมพ์ออฟเซ็ต เช่น พิมพ์แผ่นพับ พิมพ์ใบปลิว พิมพ์หนังสือ พิมพ์วารสาร พิมพ์นิตยสารพิมพ์โบรชัวร์ พิมพ์แคตตาล็อก บรรจุภัณฑ์กระดาษ งานพิมพ์ใช้ในสํานักงาน ฯลฯ ซึ่งงานพิมพ์ที่ได้จะมีคุณภาพสูงจนถึงสูงมาก มีความคมชัด สีสัน สวยงาม และยังรองรับการพิมพ์สีพิเศษ นอกจากนี้ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ตนั้น ต้นทุนการพิมพ์จะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการพิมพ์ หมายความว่า ยิ่งพิมพ์เยอะต้นทุนต่อหน่วยก็ยิ่งถูกลงนั่นเอง