หลักการ 5W1H สำหรับการพิมพ์กล่องสบู่

หลักการ 5W1H นำมาประยุกต์

พิมพ์กล่องสบู่ ที่นอกจะเป็นการสื่อสารกับผู้บริโภคที่สามารถจับต้องได้แล้วนั้น ยังเข้าถึงผู้ใช้ได้อย่างดีด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและกราฟฟิกที่ดึงดูด แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การจะ พิมพ์กล่องสบู่ ให้ถูกใจผู้บริโภคและสามารถพูดแทนเราได้นั้น ก็ต้องอาศัยกลยุทยุทธ์ทางการตลาดเพื่อที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ผลิตเอง และผู้บริโภคด้วย ซึ่งในวันนี้

Proprintshops จะมานำเสนอกลยุทธ์และหลักการต่างๆ ของการตลาดมาประยุกต์ใช้กับการพิมพ์กล่องสบู่ หลักการที่ว่านั้นก็คือ หลักการ 5W1H นั่นเอง

5W1H คืออะไร?

5W1H คือ คำภาษาอังกฤษที่ประกอบไปด้วย 6 คำ Who, What, When, Where, Why และHow และใช้ทั้ง 6 คำนี้ เพื่อตั้งคำถามกับปัญหาในธุรกิจของคุณ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาในทุกด้าน ทุกมิติที่เกิดขึ้นมาได้อย่างแม่นยำ ตรงประเด็นและสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ถูกต้อง

W – Who – ใคร

ขั้นแรกคือต้อง วิเคราะห์และระบุของกลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างชัดเจน เช่น เพศ, อายุ, อาชีพ, ฐานเงินเดือน, พื้นที่, พฤติกรรม ฯลฯ เพราะข้อมูลเหล่านี้ จะทำให้สามารถออกแบบและพิมพ์กล่องสบู่ ได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายที่ทำการวิเคราะห์ไว้ เช่น หากคุณต้องการขายสบู่ที่ทำจากธรรมชาติ 100% คุณต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ของจากธรรมชาตินั้นอยู่ในช่วงวัยไหน และมีต้องมีฐานะทางการเงินในระดับหนึ่ง เพราะเนื่องจากผลิตภัณฑ์จากธรรมชาตินั้นค่อนข้างที่จะมีราคาแพง

W – What – อะไร

สบู่ หรือ กล่องสบู่ แบบไหนที่ทำให้ลูกค้าสนใจ และอะไรที่จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน ซึ่งอันที่จริงตลาดสบู่นั้นมีการแข่งขันที่สูงมากทั้งผู้ผลิตรายเก่ และรายใหม่ที่เกิดเกิดขึ้นมา

ดังนั้นคุณอาจจะต้องเจาะจงให้ชัดเจนไปเลยว่า สบู่ของคุณมีดีอะไร? เช่น ถ้าเป็นสบู่ที่ทำมาจากสารสกัดธรรมชาติ 100%หรือเป็นสบู่แบบออแกนิค ก็ต้องชี้แจ้งรายละเอียดให้ชัดเจน ว่าส่วนประกอบมาจากอะไรบ้าง สรรพคุณเป็นอย่างไร มีประโยชน์อะไรบ้าง มีความพิเศษกว่าเจ้าอื่นอย่างไร และอาจต้องเพิ่มกิมมิคเข้ามาช่วย เช่น ยอดขายจากการขายสบู่นี้ ส่วนหนึ่งเราจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิเด็กยากไร้อีกด้วย

นอกจากจะได้สุขภาพผิวที่ดีแล้ว คุณยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกอีกด้วย เป็นต้น ก็บอกให้ละเอียดไปเลยว่า ส่วนประกอบของสบู่นี้มีอะไรบ้าง สรรพคุณเป็นอย่างไรและอาจจะต้องมีกิมมิคเล็กๆน้อยๆอย่าง ซื้อหนึ่งก้อน จะได้ช่วยบริจาคให้แก่ผู้ยากไร้อีก 1 ก้อน

W – Where – ที่ไหน

เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง “ทำเล” ในการขายของ ไม่ว่าจะเป็นบนตลาดจริงๆ หรือตลาดออนไลน์ ไม่ว่าที่ไหนๆก็ต้องมีกลุ่มลูกค้าอยู่อย่างแน่นอน แต่ในปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ การหาลูกค้าบนโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค อาจจะมีโอกาสในการขายสินค้าของคุณมากกว่าก็เป็นได้ เพราะการขายของออนไลน์ ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าตัวอย่างจากหน้าเว็ปไซต์ได้  เช่น ถ้าหากผู้ประกอบการต้องการจะพิมพ์กล่องสบู่ ให้สอดคล้องกับตัวสบู่ธรรมชาติ ก็สามารถดูตัวอย่างสินค้า ตัวอย่างการออกแบบ ชนิดของกระดาษ ได้อย่างสะดวกและเป็นไปอย่างง่ายดาย นอกจากทำเลแล้ว การสื่อสารกับลูกค้าก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น 

W – When – เมื่อไร

ช่วงเวลาการต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภคแต่ละคนมีความแตกต่างกัน คุณต้องวิเคราะห์ว่า เมื่อไหร่ที่ผู้บริโภคต้องการจะซื้อสินค้าของคุณ ช่วงเวลาของแต่ละวันเกี่ยวไหม? อุณหภูมิเกี่ยวไหม? ฤดูกาลล่ะ? และผู้บริโภคซื้อสินค้าของคุณบ่อยแค่ไหน? สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องวิเคราะห์

เพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ โดยอาจจะอ้างอิงจากกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มหลักที่คุณได้วิเคราะห์ไปแล้วในข้อแรก คือ  W – Who – ใคร เช่น ส่วนมากแล้วคนมักจะซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันกันในช่วงสิ้นเดือน จึงเป็นเหตุผลว่าช่วงวันเวลานั้นเองที่เราจะทำกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ นั่นเอง

W – Why – ทำไม

Why ในข้อนี้ต้องมาวิเคราะห์กันว่าทำไมปัญหาถึงเกิด เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้าของคุณ ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องวิเคราะห์ จาก จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค์ หรือเรียกว่า SWOT Analysis เช่น หากสบู่ของคุณมี โปรโมชั่น กล่องสบู่สามารถนำไปรีไซเคิลได้หรือสามารถเลือกส่วนผสมโปรดของแต่ละคนได้ ซึ่งต่างจากคู่แข่ง ก็อาจจะทำให้ตอบคำถามตรงนี้ได้ว่าทำไมลูกค้าถึงต้องเลือกซื้อสินค้าของคุณ 

H – How – ได้อย่างไร?

หลักการสุดท้ายของ 5W1H ก็คือ ต้องสามารถที่จะวางแผน กำหนดขั้นตอนวิธีการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ว่าจะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากที่สุด เช่น การสร้างเพจในเฟสบุ๊ค เพื่อโปรโมทสินค้า โปรโมทกิจกรรมของคุณ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อและที่สำคัญคือกระตุ้นให้เกิดการแชร์ เมื่อการส่งต่อในรูปแบบปากต่อปากแล้ว จะเกิดเป็นสังคมเล็กๆที่รวมคนที่มีความต้องการเดียวกัน แลกเปลี่ยนความต้องการ ความคิดเห็นกัน เป็นต้น

ข้อดีของการนำ 5W1H มาใช้กับการผลิตกล่องสบู่

1. เข้าใจง่าย : ในหลักการของ 5W1H สามารถที่จะทำให้คนเข้าได้ง่าย มีความหมายที่ตรงตัวไม่ซับซ้อนหรือเข้าใจยากและสามารถที่จะนึกภาพตามได้เลย เช่น ใคร เราผลิตกล่องสบู่มาเพื่อให้ใครเป็นใช้ เด็ก ผู้ใหญ่ ชาย หรือหญิง อายุประมาณเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่หรืออย่างไร ก็มีความหมายว่า เราต้องว่างแผน กำหนดขั้นตอนในการทำงานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและเพื่อที่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้
2. วัตถุประสงค์ชัดเจน : หลักการ 5W1H นี้สร้างมา เพื่อช่วยในการแก้ปัญหาที่ผลิตกล่องสบู่ หรือผลิตสินค้า มาแล้วไม่ตอบโจทย์ ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของทั้งผู้ผลิต และกับตัวผู้บริโภคและหากใช้หลักการ 5W1H นี้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้
3. ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด : ไม่ใช่แค่ธุรกิจผลิตกล่องสบู่เท่านั้นที่จะใช้หลักการนี้ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน ก็สามารถที่จะนำหลักการ 5W1H ไปใช้ในการแก้ปัญหาได้ เนื่องจากในแต่ละหัวข้อย่อยนั้น สามารถปรับแต่งเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ หรือปัญหาที่เจอได้ อีกทั้งยังการตั้งคำถามทุกๆ ครั้งในการทำธุรกิจ จะช่วยให้เราได้เจอปัญหาที่ใหม่ และหลากหลายที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของเราอีกด้วย

สรุป

การพิมพ์กล่องสบู่ นอกจากจะต้องพิมพ์และออกแบบให้สวยงามเพื่อเป็นสื่อเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อแล้วการพิมพ์กล่องสบู่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าด้วย แต่หากว่าถึงจะออกแบบ พิมพ์กล่องสบู่ให้สวยแค่ไหน แต่ไม่ตรงความต้องการของผู้บริโภคก็จะไม่ได้ช่วยอะไร

จึงมีหลักการ5W1H นี้ขึ้นมาเพื่อช่วยให้กล่องสบู่ ที่จะผลิตออกมาตรงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด โดยการตั้งคำถามง่ายๆ เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม อย่างไร จะสามารถที่จะตอบโจทย์ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ หลักการ 5W1H ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญสามารถนำมาปรับใช้กับทุกธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ อย่างลืมใช้หลักการ 5W1H